AssHole-Society
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


AssHole-Society
 
บ้านLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Linkin Park - A Thousand Suns

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
NuMadness_Core
Moderator
Moderator
NuMadness_Core


จำนวนข้อความ : 134
Join date : 21/06/2010

Linkin Park - A Thousand Suns  Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Linkin Park - A Thousand Suns    Linkin Park - A Thousand Suns  EmptyMon Sep 20, 2010 6:33 pm

10 ปีผ่านไป ทุกอย่างเปลี่ยนไป

ไม่เว้นกระทั่งดนตรีหรือนี่คือ "วัฏจักร"
Linkin Park - A Thousand Suns  C9711526-0

ต้อง ขอออกตัวว่า ผู้เขียนได้ติดตามผลงานของวงนี้มาตั้งแต่อัลบั้มแรก เป็นเวลา เกือบ 10ปี จนถึงปัจจุบัน ได้ฟังตั้งแต่Studio Album,Remix Album,SideProject,Live AlbumรวมไปถึงAlbumของแฟนเพลง LP Undergroundที่ผู้เขียนเคยเป็นสมาชิก
และเคยได้Meet&Greetกับทางวงมาแล้วเมื่อ3ปีที่แล้ว

จากวงnu-metal,alternative rock ที่ออกอัลบัมHybrid Theory Rap-Rock ที่ เคยโด่งดังทั่วโลกมาแล้ว

กาลเวลาผ่านไปจนกระทั่งถึง10ปีแน่นอน พวกเขาทั้ง6 คนก็ยังคงอยู่ไม่มีการเปลี่ยนสมาชิกแต่อย่างใด

เพียง แต่ว่า ประสปการ์ณ ความท้าทาย รางวัล คำด่าได้หล่อหลอม พวกเขาทั้ง6 ให้ วุฒิภาวะของเขาโตขึ้นในด้านการมองโลก และ การสื่อออกมาเป็นบทเพลงค่อนข้างจะซีเรียส มากขึ้น และ ลองคิดในอีกแง่มุมว่าถ้าเกิดพวกเขาเลือกที่จะทำอัลบั้มแบบ อัลบั้มแรก ต่อไปเรื่อยๆนั่นคือการต่อต้านทางการเวลาและวัฏจักรของดนตรี

และอาจจะส่งผลให้มีการลาออกของสมาชิกคนใดคนหนึ่งและถึงขึ้นการยุบวง อย่างแน่นอน

อัลบั้มนี้ถือเป็นคอนเซปอัลบั้ม ต่อจาก Minute To Midnight

นับเป็นเวลาได้3ปีกว่าๆนับจากอัลบั้มที่3 Minute To Midnightหลังจากเสร็จการทัวร์ ซึ่งทางวงก็ไม่ได้ไปไหน

Chesterได้มีการออกโซโล่อัลบั้มDead By Sunrise ออกมา
ไปFeaturingกับศิลปินHipHop Busta Rhymes ในเพลง We Made It
ไปทำเพลง New Devide Soundtrack ของภาพยนต์ฟอร์มยักษ์
Transfomers 2 ในปี2009
ส่วนต้นปี2010 ทางวงก็ได้ทำเพลงNot Aloneเป็น1ในเพลงซึ่งอยู่ในอัลบั้ม เพลง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสปภัยชาวเฮติ

และBlackbirdsเพลงที่ประกอปเกมส์8Bitของพวกเขาที่ต้องเล่นให้เคลียร์สเตจสุดท้ายเพื่อจะปลดล็อคออกมาฟัง

และเมื่อถึงเวลาสมควร อัลบั้ม A Thousand Suns หรือที่แปลตรงๆว่าตะวันนับพันดวง ก็ได้ฤกษ์ออกมา

อัลบั้มนี้ใช้ Producer 2คนเหมือนเดิมคือ Rick RubinและMike Shinoda



พวกเขาโตขึ้น มีของให้ปล่อยกันเยอะขึ้น
โดยเฉพาะ ไมค์และ ฮาน นักร้องนำและ เทิร์นเทเบิ้ลของวง เลือกที่จะสื่อบทเพลงและอัลบั้มนี้ผ่านในรูปแบบของศิลปะ

งานในอัลบั้มนี้ คนฟัง ทั้ง สาวกเก่า และแฟนเพลงไหม่ๆ อาจจะมึน ในทันทีในการฟังครั้งแรก(รวมทั้งผมด้วย)
โดยผมจะขออธิบายออกเป็นทางด้านเนื้อเพลงและแพทเทิร์นของดนตรี

ทางด้านเนื้อเพลง
อัลบั้มนี้ถือเป็นคอนเซปอัลบั้มเช่นเดียวกับอัลบัมที่แล้ว Minute To Midnight
โดย จะเน้น ความหมายของเนื้อเพลงทางด้าน สงคราม ความหวัง การสำนึกผิด การสูญเสีย การเมือง การประชดประชัน การให้กำลังใจ การดับลง และการ เกิดไหม่
รวมทั้งมีการอ้างถึงเกี่ยวกับ พระวิษนุ ใน คัมภีร์ภควัทคีตาของชาวฮินดู

ทั้ง นี้ ทางด้านเนิ้อเพลง มาจาก ไมค์และเชสเตอร์ ทั้งหมด ซึ่งคาดวะน่าจะใช้เวลาในการเขียนเนื้อเพลงนานพอสมควร เพราะ เนื้อเพลงมีความหลากหลายทางอารมณ์มาก
ซึ่งผม (ผู้เขียน) ยังไม่เข้าใจ เนื้อเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม
ไมค์ ได้ใช้เสียง คลีนเมโลดี้มากขึ้นกว่าเดิมแต่ยังไม่ลืมจุดยืนของตัวเองในด้านการเป็นEmcee ซึ่งยังคงทีการแร็พประปรายอยู่บ้างในอัลบั้มนี้
ส่วนทางด้านเชสเตอร์นี่หายห่วงเรื่องด้านพลังเสียงไปได้เลย เพราะ ผมคิดว่าทุกคนคงจะรู้ถึงพลังของเส้นเสียงในตัวผู้ชายคนนี้อยู่แล้ว

ทาง ด้านภาคดนตรี ทางวงเลือกที่จะใช้เสียงสังเคราะห์,คีย์,แซมเปิ้ล มากกว่า กีตาร์ม,เบสและกลอง ซึ่งจะมีความหลากหลายทางด้านอารมณ์แนวทางด้านภาคดนตรี
ซึ่ง อาจเป็นเพราะว่าในอัลบั้มMinute To Midnight Hahnโนจำกัดทางด้านซาวนด์สังเคราะห์ไปพอสมควร อัลบั้มนี้ พี่แกเลยไปปล่อยของซะบ้าพลังขนาดนี้
ขึ้นไปข้างบน Go down
NuMadness_Core
Moderator
Moderator
NuMadness_Core


จำนวนข้อความ : 134
Join date : 21/06/2010

Linkin Park - A Thousand Suns  Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Linkin Park - A Thousand Suns    Linkin Park - A Thousand Suns  EmptyMon Sep 20, 2010 6:34 pm

Linkin Park - A Thousand Suns  C9711526-4
Track By Track

1. The Requiem

อินโทรของวง โดยใช้ธีมดนตรี เสียงเปียนโนและ เสียงสังเคราะห์ ได้เข้ากับ คอนเซปในอัลบั้มนี้
ความหมายของเนื้อเพลง ย่อยๆ
พระเจ้า โปรด ปกป้องพวกเรา
พวกเราจะถูกเผาไหม้โดยภายในตะวันทั้งพันดวง
สำรับ บาปที่ก่อด้วยมือเรา
บาปที่กระทำด้วยวาจาของเรา
ปาปที่กระทำโดยบิดาของเรา
ปาปที่กระทำโดยลูกหลานของเรา
ส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงมาจากSingleแรกของวง The Catalyst

2. The Radiance
เป็น เพลงสั้นๆซึ่งJ. Robert Oppenheimer ระลึกถึงการทดลองนิวเคลียร์ครั้งแรก
"ทุก คนในที่นั้นต่างรู้ว่าจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก บางคนร้องไห้ บางคนหัวเราะ แต่พวกเราส่วนใหญ่พูดกันไม่ออก ผมนึกถึงประโยคจากคัมภีร์ภควัทคีตาของชาวฮินดูตอนที่พระวิษณุจำแลงร่างให้มี หลายกรแล้วตรัสว่า "ยามนี้ข้าคือมรณา ผู้ทำลายผืนพิภพ"
ผมคิดว่าเราทุกคนต่างก็คิดอย่างนั้น"

3. Burning In The Skies
เพลง เต็มๆเพลงแรกในอัลบั้มนี้ ซึ่งถ้าใครชอบอารมณ์แบบเพลงShadow Of The Dayก็อาจจะชอบเพลงนี้โดยไม่ยากนัก ซึ่งเนื้อหาเพลงนี้น่าจะเป็นการพูดถึงต่อความหมายต่อจากเพลง The Radiance เกี่ยวกับบาปของมนุษย์ซึ่งได้กระทำลงไปและบาปที่ทุกคนต้องร่วม
กันรับผิดชอบ

4. Empty Spaces
เพลง สั้นๆ ซึ่งเป็นเสียงมาจากสงครามๆหนึ่ง(อ้างอิงจากArtworkบนปก)

5. When They Come For Me
เพลง ทีขึ้นด้วยเสียงกลองสังเคราะห์และเพอคัสชั่น เป็นเพลงที่สื่อสารเพลงออกมาด้วยการแร็พ ของไมค์ เพลงนี้น่าจะพูดถึงประวัติศาสตร์ของคนกลุ่มๆนึง เพราะเนื้อเพลงกล่าวถึงชื่อคน หลายคนเอาไว้

6. Robot Boy
เพลงบัลลาด ช้าๆ ที่คลอไปกับเสียงเปียนโน
และเสียงประสานของไมค์และเชสเตอร์ ซึ่งกล่าวถึง การกระทำ และผลที่จะได้รับ
Hold on / the weight of the world / will give you the strength to go !

7. Jornada Del Muerto
Interludeสั้นๆอีกเพลง
แปลเป็นภาษาอังกฤษ ว่า
Lift me up
Let me go
และภาษาไทย
ฉุดฉันขึ้น
ปล่อยฉันไป

8. Waiting For The End
เพลงนี้จะเป็น Single ที่2 ของวง
เป็นเพลงแร็พอีกเพลงในอัลบั้ม และมีท่อนฮุคโดนๆ
และวลีเด็ดของเพลง
This is not the end, this is not the beginning
นี่ไม่ใช่จุดจบและไม่ไช่การเริ่มต้น
The hardest part of ending is starting again
ส่วนที่ยากที่สุดของจบจบคือการเรื่อมต้นไหม่อีกครั้ง

9. Blackout
เป็นเพลง เพลงเดียวในอัลบั้มที่มีเสียง สครีมของเชสเตอร์
เกี่ยวกับ 2สิ่งที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน แต่ในขณะเดียวกันมันก็เข้ากันได้

10. Wretches And Kings
เพลงนี่น่าจะเป็นการเอาใจแฟนเพลงในอัลบั้มเก่าๆได้เป็นอย่างดี
มีเสียงพูดและสบถของ Mario Savio
และเพลงยังเป็นแนว เก่าๆ ที่มีการแร็พและท่อนฮุค แรงๆ และเสียงแสครช
และเพลงที่น่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง

11. Wisdom, Justice, And Love
เป็นเพลงต่อจาก The Radiance
ซึ่งเป็นการระลึกถึง หลังจากที่ได้ทดลองนิวเคลีย์ครั้งแรกไปแล้ว

12. Iridescent
เพลงบัลลาดซึ่งน่าจะเป็น เพลงที่เศร้าและช้าและเบาที่สุดของวงที่เคยทำมาทั้งหมด
ใช้เสียงคลีนของไมค์และเชสเตอร์คลอไปกับเสียงเปียนโน
และพิเศษสุด เราจะได้ยินเสียงประสานของ ทั้ง 6คน ด้วย
Remember all the sadness and frustration
And let it go
พึงระลึกถึงสิ่งที่โศกเศร้าและความผิดหวัง และ ปล่อยมันไป

13. Fallout
เพลงต่อจาก Burning in the Skies เพื่อปูพื้นไปยังเพลงต่อไป

14. The Catalyst
เพลง ที่เป็นSingle แรกของอัลบั้มเป็นจุดรอยต่อระหว่างแนวเพลงในอัลบั้มที่ผ่านมาและอัลบั้มนี้ เราจะได้เห็น หน้าที่ของทั้ง 6คนอย่างชัดเจน
ถือเป็นเพลงที่ฟังง่าย ถ้าเทียบกับเพลงอื่นๆในอัลบั้ม

15. The Messenger
เพลงส่งท้ายในอัลบั้มที่ใช้ อคูสติกกีตาร์ ควบคู่ไปกับการโชว์พลังเสียงของเชสเตอร์
ซึ่งเนื้อเพลงจะพูดถึงความโศกเศร้าและการหลุดพ้น
ขึ้นไปข้างบน Go down
NuMadness_Core
Moderator
Moderator
NuMadness_Core


จำนวนข้อความ : 134
Join date : 21/06/2010

Linkin Park - A Thousand Suns  Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Linkin Park - A Thousand Suns    Linkin Park - A Thousand Suns  EmptyMon Sep 20, 2010 6:35 pm

อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ เบาที่สุดแต่เป็นอัลบั้มที่ฟังยากที่สุด เท่าที่ LPเคยทำมา คุณอาจต้องใช้เวลาในการฟัง พอสมควร

ขอ แนะนำว่า ให้ ลืมภาพลักษณ์และแนวดนตรี ในอัลบั้มที่ผ่านๆมาทั้งหมดไป และเปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นไปตามวัฏจักรในอัลบั้มนี้ คุณอาจจะเข้าถึงมันหรือ อาจจะไม่ชอบมัน
สุดแล้วอยู่ที่ความชอบในการฟัง ดนตรีของแต่ละคน ถ้าชอบแนวเพลงเก่าๆยุคต้น 2000 ก็ไปฟังHybrid Theory,Meteora หรือถ้าชอบ ผลงานทางด้านยุค 80ติด
ซาวสังเคราะห์ หรือถ้าชอบผลงาน ทดลอง ของวงทางด้านภาคดนตรีเน้นการสื่อสารทางด้านศิลปะในทางไหม่ๆ ผมว่าคุนจะไม่ผิดหวังในอัลบั้มนี้ A Thsousand Suns

เชิญสดับรับฟัง ตะวันนับพันดวง

ปล.ที่ผมรีวิวช้าเพราะเพื่องได้ฟัง อดทนไม่โหลดและไม่ฟังเพลงใดก่อนเพื่อรอ CD เข้ามาไทยและฟังทีเดียวเลย ทรมานมากกกก

Linkin Park - A Thousand Suns  C9711526-5
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Linkin Park - A Thousand Suns
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
AssHole-Society :: News & Review Hole :: Review & Interview-
ไปที่: